การเพิ่มสมาชิกใหม่ ให้กับธุรกิจของเรา

ความสำคัญของการเพิ่มสมาชิกใหม่

การเพิ่มสมาชิกใหม่ ให้กับธุรกิจก็มีความจำเป็นไม่น้อยกว่าการทำตลาดด้านอื่น ๆ เพราะเป็นกลุ่มที่สร้างยอดขายให้กับร้านค้าและธุรกิจ ทั้งยังเป็นกลุ่มตลาดทดลองของธุรกิจเพื่อเป็นโมเดลในการหาลูกค้าครั้งต่อไป และถ้าหากธุรกิจไหนมีวิธีการจัดการลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างดี เช่น การบริการที่ดี การทำระบบสมาชิกที่ดีและครบวงจร ก็จะสามารถเปลี่ยนลูกค้ากลุ่มนี้ให้เป็นลูกค้าประจำที่มีการซื้อซ้ำได้ในระยะยาวอีกด้วย

ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ การหาลูกค้าใหม่ ดึงดูดลูกค้าให้ได้มาก ๆ เป็นเหมือนเป้าหมายร่วมที่ทุกธุรกิจต้องการบรรลุ เพราะนอกจากจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ธุรกิจคุณเป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้นด้วย

เพื่อให้ได้ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น ทางcw จะแนะนำแนวทางเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดี  และสามารถมองหาวิธีการเพื่อเพิ่มยอดขายใหม่ๆ และยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเก่าไว้ เนื่องจากปัจจุบัน ทุกธุรกิจมีอัตราการแข่งขันที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ ล้วนมองหากลยุทธ์ระยะยาวในการขยายฐานลูกค้าประจำ และกลยุทธ์หนึ่งที่ถูกนำมาใช้มากขึ้นในปัจจุบันเพื่อช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาอุดหนุนซ้ำ และเพิ่มยอดขายลูกค้าใหม่ๆ ก็คือ “Loyalty Program”

ระบบ Loyalty Program คืออะไร??

Loyalty Program เป็นแนวทางหนึ่งในการสร้างฐานลูกค้า เพื่อเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจอย่างมั่นคง เพราะช่วยรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเก่าไว้ พร้อมเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้นได้ จุดเด่นของ Loyalty Program เน้นไปที่การตอบแทนให้กับลูกค้าประจำ เพื่อวิธีกระตุ้นให้ลูกค้ามีส่วนร่วม ให้ลูกค้าไม่เปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าหรือบริการกับแบรนด์คู่แข่ง.

Loyalty Program สำหรับบริหารจัดการลูกค้า

• ระบบ Loyalty Program ช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเก่าไว้ได้
• Loyalty Program ยังช่วยรักษาลูกค้าให้อุดหนุนในระยะยาว ไม่เปลี่ยนใจไปซื้อหรือใช้บริการกับแบรนด์คู่แข่ง
• โปรแกรม Loyalty ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจและสินค้า เนื่องจากลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าหรือบริการซ้ำ
• ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสร้างความเชื่อใจจากลูกค้าใหม่
• ระบบ Loyalty ช่วยในการจัดแบ่งกลุ่มลูกค้าแต่ละระดับ เพื่อการมอบสิทธิพิเศษได้อย่างเหมาะสม
• ช่วยเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า รวมถึงพฤติกรรมการซื้อและความสนใจ
• Loyalty Program ช่วยให้แบรนด์ทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Loyalty Program มีกี่ประเภท และช่วยเพิ่มฐานลูกค้าได้อย่างไร

ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า หรือ Loyalty Program มีหลายประเภท แบ่งได้ดังนี้

1. แบบสะสมคะแนน (Points-based Loyalty Programs) ให้ลูกค้าสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของรางวัลหรือรับเงินคืน นอกจากจะสะสมคะแนนด้วยการซื้อสินค้าจากแบรนด์แล้ว ยังสามารถสะสมคะแนนจากการร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วย อาทิ วันเกิด การเล่นเกม การเขียนรีวิวสินค้า การแชร์โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยผู้ประกอบการสามารถกำหนดกิจกรรมและเงื่อนไขได้
2. แบบแบ่งระดับสมาชิก (Tiered Loyalty Programs) คือการแบ่งระดับสมาชิกออกเป็นกลุ่มต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น กลุ่มสมาชิกระดับสูงจะได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่ากลุ่มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรางวัล คะแนน และการบริการ ส่วนกลุ่มสมาชิกระดับกลางไปจนถึงระดับเริ่มต้นจะได้รับสิทธิประโยชน์น้อยลงไปตามลำดับ โดยผู้ประกอบการสามารถจัดกลุ่มได้จากตัวชี้วัดต่างๆ อาทิ ยอดใช้จ่ายสะสม แต้มสะสม หรือการมีส่วนร่วมกับทางแบรนด์
3. แบบจ่ายเงินค่าสมาชิก (Paid Loyalty Programs) คือการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เหนือกว่า ซึ่งค่าธรรมเนียมการสมัครสามารถเก็บซ้ำตามระยะเวลาที่กำหนดได้ เช่น 1 ปี 2 ปี หรือตลอดชีพ ซึ่งเป็นการเก็บเพียงครั้งเดียวตอนสมัครสมาชิก โดยสมาชิกจะได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ การจัดส่งสินค้าฟรี ส่วนลดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ การดูแลเป็นพิเศษกว่าลูกค้าที่ไม่ได้เป็นสมาชิก เป็นต้น
4. แบบเพิ่มการสร้างคุณค่า (Value-based Loyalty Programs) คือการสร้างคุณค่าและความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า อย่างเช่น ลูกค้าไม่ได้เป็นกลุ่มสมาชิกระดับสูงหรือไม่ได้รับสิทธิอะไรเป็นพิเศษ แต่จะได้รับความรู้สึกดีๆ จากแบรนด์เนื่องจากลูกค้าได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมทำการกุศล โดยการนำแต้มสะสมไปแลกเป็นเงินเพื่อบริจาคเงินแก่มูลนิธิต่างๆ

ระบบ Loyalty Program เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการเสริมสร้างธุรกิจให้เติบโตที่ผู้ประกอบการควรรู้ แต่การจัดระบบสะสมคะแนนหรือการหาสิทธิพิเศษมาให้ลูกค้าเพื่อเป็นของรางวัลตอบแทน ที่ช่วยดึงดูดลูกค้าให้มาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ ด้วยการมอบคูปองต้อนรับฟรี สำหรับนำมาใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ หรือแลกรับของขวัญ ของรางวัลฟรี

การสร้างระบบสมาชิกที่ดี

1. อธิบายเงื่อนไขของการเป็นสมาชิกให้ชัดเจน
   

   ในการสมัครสมาชิกกับทางบริษัท โดยการใช้อีเมลสมัคร หรือเบอร์โทรศัพท์ เพื่อยืนยันตัวตน โดยสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย หรือสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ก็ตาม
   ควรอธิบายเงื่อนไขชัดเจน ง่ายๆ ใช้คำที่เข้าใจง่าย ไม่กำกวม อ่านรู้เรื่องได้ในเวลาไม่นาน หากทำได้จะช่วยเพิ่มการบอกต่อ หรือแชร์ออกไปได้

   เพราะถ้าเราสามารถทำให้ลูกค้าใหม่เข้าใจได้ง่าย ๆ เขาก็สามารถอธิบายให้คนรู้จักเข้าใจได้แบบง่าย ๆ เช่นกัน

2. ระบบกรอกข้อมูลในการสมัครสมาชิกไม่ซับซ้อน

   คือการทำให้ขั้นตอนการสมัครสมาชิกง่ายที่สุดและปลอดภัย ระบบสมาชิกผ่านหน้าเว็บไซต์จะต้องไม่ยุ่งยาก
   หรือในการกรอกข้อมูลเพื่อการเป็นสมาชิกใหม่ของทางร้านควรจะทำให้มันสั้นๆ ง่ายๆ เพื่อให้ใช้เวลาในการดำเนินการของลูกค้าใหม่นั้นน้อยที่สุด

3. ออกโปรโมชั่นใหม่ ๆ อยู่เสมอ

   บางธุรกิจอาจคิดว่า แค่มี Loyalty Program สะสมพอยท์ ก็จะช่วยให้มีคนสมัครสมาชิกอยู่เรื่อย ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ท่ามกลางข้อมูลข่าวสารโปรโมชั่นบนอินเทอร์เน็ตที่มากมาย ลูกค้าจะเลือกเข้าร่วมเฉพาะสิ่งที่เห็น และรู้สึกมีประโยชน์กับตัวเองเท่านั้น หากคุณไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ เลย ก็ไม่อาจทำให้จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือ ออกโปรโมชั่นใหม่ ๆ เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ โปรโมตในช่องทางการตลาดทุกช่องทางที่คุณมี ดึงดูดลูกค้าใหม่ด้วยโปรโมชั่นที่พิเศษกว่าปกติ ทำให้ลูกค้าเห็นถึงข้อดีของการเป็นสมาชิกให้ได้

4. มอบของขวัญเมื่อสมัครสมาชิก
   

   ได้ผลดีเสมอคือการให้ของขวัญ แน่นอนว่าถ้ามีของขวัญจูงใจก็จะสามารถผลักดันให้ลูกค้ามีพฤติกรรมที่ต้องการได้ไม่ยาก ไม่เว้นแม้แต่การสมัครสมาชิก หากมีแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจควบคู่ ก็จะสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกได้เป็นจำนวนมาก ขอยกตัวอย่างระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้ม PointSpot ที่มีฟีเจอร์ Friend get Friends สามารถให้สมาชิกของธุรกิจส่งข้อความหรือ QR Code เชิญชวนคนรู้จักให้มาเป็นสมาชิกได้
   

ทำระบบสมัครสมาชิกในเว็บไซต์