SKU คือ หน่วยวัดประเภทสินค้าที่เล็กที่สุดในระบบคลังสินค้า ซึ่งช่วยแยกความแตกต่างของสินค้าประเภทเดียวกันที่มีความแตกต่างกัน เช่น สี ขนาด ลวดลาย เช่น ปากกา ที่มีสี 4 สี SKU จะเป็นตัวที่ใช้แยกประเภทของปากกาแต่ละสี เพื่อให้เราทราบถึงสินค้าในสต๊อกสินค้าของเราได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งแตกต่างกับรหัสสินค้า ที่สามารถกำหนดได้เพียงรหัสเดียวต่อสินค้า 1 รายการ แต่หากสินค้านั้นเป็นประเภทเดียวกันและมีการแยกย่อยลงไปอีกอาจจะทำให้ไม่ทราบว่าสินค้านั้นเหลือในสต๊อกเท่าไหร่ เป็นสินค้าในหมวดหมู่ไหน เพราะเรากำหนดสินค้าด้วยรหัสสินค้าเดียวกันทั้งหมด ฉะนั้นจึ้งมีการนำ SKU เข้ามาใช้งาน เพื่อให้แยกประเภทสินค้าได้ละเอียดมากขึ้น
สต๊อกแบบ SKU แล้วดียังไง ??
- ใช้ในการบริหารจัดกาคลังสินค้า
- ใช้สำหรับติดตามสินค้าเชิงการตลาดได้ดี
- ช่วยลดความซ้ำซ้อนของสินค้า
รหัสสินค้า คือ การกำหนดสินค้ารายการนั้นๆ รหัสสินค้าเป็นหน่วยที่ใหญ่กว่า SKU โดยเจ้าของร้านอาจจะเป็นผู้กำหนดรหัสสินค้าเอง รหัสสินค้าสามารถใช้ร่วมกับ SKU ได้ เช่น ร้องเท้ารุ่น ABCD มีจำหน่าย 3 สี เป็น ABCD-01-RED, ABCD-01-BACK, ABCD-01-BLUE ได้ เมื่อมีการซื้อสินค้าและตัดสต๊อกจะทำให้เราสามารถทราบทันทีว่า รองเทาสีใด มีจำนวนเหลือเท่าไหร่ และสีไหนขายดีที่สุด
บาร์โค้ด กับ SKU มันต่างกันยังไง?
บาร์โค้ด หรือ UPC (Universal Product Code) คือ รหัสสินค้าที่เป็นมาตรฐานสากล ใช้กันทั่วโลก ส่วนใหญ่แ้ล้วจะีมี 12 หลัก และมีเฉพาะตัวเลขเท่านั้น
SKU คือ เป็นรหัสสินค้าที่กำหนด สำหรับการดำเนินงานภายในองค์กร ใช้ในการสร้างความแตกต่างของแต่ละสินค้า ใน 1 สินค้า สามารถมีได้หลาย SKU สามารถกำหนดได้ทั้งตัวเลข และตัวอักษร
ตัวอย่าง : จะเหมาะสำหรับโรงงานผลิตสินค้าประเภทต่าง ๆ ที่จะต้องส่งสินค้าให้กับ vendor จำหน่ายต่อ แต่มีความต้องการที่จะติดตามการขายสินค้า โดยจะเป็น Barcode + Color